นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และผู้บริหารระดับสูงจากหัวเว่ย ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์นวัตกรรมและพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ซึ่งศูนย์แห่งนี้พร้อมให้บริการฝึกอบรมทักษะด้านเทคโนโลยีขั้นสูงแก่สถาบันการศึกษาในภาคใต้และประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ 15 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ร่วมกับหัวเว่ย เปิดตัว “ศูนย์นวัตกรรมและพัฒนาบุคลากรด้านไอซีที ที่วิทยาเขตตรัง ศูนย์นี้นับเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดว่าจะส่งประโยชน์ในวงกว้าง ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนอีกด้วย โดยการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภาคการศึกษาและภาคส่วนอื่นๆ
ศูนย์แห่งนี้มีหลักสูตรการเรียนรู้ด้าน ICT และแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมให้กับอาจารย์และนักศึกษาของ ม.อ. ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น 5G, Cloud, IoT และ Big Data ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์จากโซลูชันจริง ประกอบด้วยห้องเรียนเทคโนโลยีเฉพาะทาง 6 ห้อง รวมถึงห้องเรียนด้าน Datacom, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ความปลอดภัยเครือข่าย, Cloud & AI, Server และระบบจัดการเครือข่ายรวมศูนย์
ศูนย์นวัตกรรมนี้ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์จริง และมีหลักสูตรที่ผู้ผ่านการอบรมจะได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น HCSA-Presales-Service ซึ่งครอบคลุมความรู้พื้นฐานและนโยบายการขายเกี่ยวกับโซลูชันเครือข่าย การสนับสนุนการดำเนินงาน และการให้คำปรึกษาด้านอุตสาหกรรมและการบูรณาการแอปพลิเคชัน ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้สอนหลักสูตร และนักศึกษาจะได้สัมผัสประสบการณ์ใช้งานอุปกรณ์จริงภายในศูนย์ ซึ่งจะส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ พัฒนาความรู้ทางเทคโนโลยี และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้ มุ่งผลลัพธ์ที่จะสร้างกำลังคนในระดับแนวหน้าของโลกด้านไอซีที และเป็นหลักสูตรที่ล้ำสมัยที่สุดที่จะร่วมยกระดับสมรรถนะตลาดแรงงานด้านไอซีทีในเอเชียแปซิฟิก ผ่านหลักสูตรและการรับรองจากศูนย์แห่งนี้
ด้วยพันธกิจในการสร้างความเป็นผู้นำทางวิชาการ นวัตกรรม และสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีสมรรถนะ มหาวิทยาลัยจึงมีแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเตรียมนักศึกษาทั้งในสาขาเทคโนโลยีและสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น การพัฒนาหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน การใช้เทคโนโลยีในกระบวนการเรียนการสอน รวมถึงการจัดอบรมและพัฒนาทักษะ เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ ความร่วมมือระหว่าง ม.อ.กับภาคเอกชนและอุตสาหกรรมในการพัฒนาหลักสูตรและการฝึกงาน เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์สูงสุดและนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในอนาคต
“เป้าหมายการสร้างกำลังคนในระดับแนวหน้าของโลกด้านไอซีที คือ การสนับสนุนให้นักศึกษาเป็นบุคลากรที่มีทักษะสอดคล้องกับตลาดแรงงาน ผ่านการอบรมหลักสูตร ผ่านการฝึกฝนและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เพื่อสร้างโอกาสในอาชีพการงาน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีแผนที่จะเปิดศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้ให้กับนักศึกษาของสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ทั้งในภาคใต้และทั่วอาเซียน เพื่อให้นักศึกษาได้ประโยชน์และได้รับความรู้ที่ล้ำสมัยจากศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัตน์ กล่าว
นายวิลเลี่ยม จาง ประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง ม.อ. และหัวเว่ย เป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับมหาวิทยาลัย การนำโครงสร้างพื้นฐาน ICT ขั้นสูงและทรัพยากรต่าง ๆ มาใช้ในระบบการศึกษาของ ม.อ. จะทำให้ศูนย์นี้เป็นตัวอย่างในการแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรม ยกระดับการเรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงสถาบันการศึกษาได้อย่างไร สำหรับอาจารย์และนักศึกษา นี่เป็นโอกาสในการเพิ่มทักษะและความสามารถทางดิจิทัล โดยการผสมผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ากับหลักสูตร นักศึกษาจะสามารถเข้าถึงประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความคล่องตัว และเหมาะสมกับความท้าทายในอนาคต
ภาพเพิ่มเติม :