ข่าวชาวสงขลานครินทร์

ม.อ. แถลงข่าวเตรียมจัด World HAPEX 2022 ชูแนวคิด “ฮาลาลเพื่อสุขภาพหลังวิกฤติโควิด-19”




    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสถาบันฮาลาล จัดแถลงข่าวงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนานานาชาติด้านฮาลาล 2565 (World HAPEX 2022) โดยมี รศ. นพ.สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม, ผศ. ดร.ปาริชาติ เบ็ญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล ฝ่ายวิชาการ วิจัยและพัฒนาองค์กร, คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB, ดร.อับดลรอหมาน กาเหย็ม ผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการ นายก อบจ.สงขลา และนายศักดิ์กรียา บิลแสละประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ร่วมกันแถลงข่าว ณ ห้องประชุม 210 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ในวันที่ 4 สิงหาคม 2565


    รศ. นพ.สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า การจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนานานาชาติด้านฮาลาล เป็นกิจกรรมหนึ่งที่มหาวิทยาลัยให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 10 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผู้ผลิตสินค้าบริโภค อุปโภค และบริการด้านฮาลาล ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความตื่นตัวและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการฮาลาล มาจำหน่ายสินค้าและบริการฮาลาลภายหลังสถานการณ์โควิด - 19 คลี่คลายลง โดยในปีนี้ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสุขภาพ ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “ฮาลาลเพื่อสุขภาพหลังวิกฤติ   โควิด-19” คาดว่าหลังจากการแพร่ระบาดของโรคสิ้นสุดลง ความต้องการในการบริโภคสินค้าและบริการฮาลาลเพื่อสุขภาพจะเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุนให้กับธุรกิจฮาลาลเพื่อสุขภาพอย่างแน่นอน



    ผศ. ดร.ปาริชาติ เบ็ญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล ฝ่ายวิชาการ วิจัยและพัฒนาองค์กร กล่าวว่า การจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนานานาชาติด้านฮาลาล 2565 หรือ World HAPEX 2022 และในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 10 ภายใต้แนวคิด “ฮาลาลเพื่อสุขภาพหลังวิกฤติโควิด-19” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 14 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าบริโภค อุปโภค และบริการด้านฮาลาลในระดับประเทศและนานาชาติ กระตุ้นผู้ผลิตสินค้าบริโภค อุปโภค และบริการด้านฮาลาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดความตื่นตัวและสร้างโอกาสในการเผยแพร่แหล่งผลิตและผลิตภัณฑ์ฮาลาลให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ เปิดโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจสุขภาพด้านสินค้าและบริการฮาลาลในยุค COVID - 19 กระตุ้นนักวิจัย นักวิชาการ บุคลากรภาครัฐและผู้ประกอบการฮาลาลในพื้นที่ ให้รับรู้แนวทางการจัดการธุรกิจรูปแบบใหม่ เพื่อพัฒนาธุรกิจสุขภาพฮาลาลของตนเองในยุค COVID – 19 เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลวิจัย ข้อมูลวิชาการ ที่สนับสนุนแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่ผ่านงานวิจัยและนวัตกรรมในยุค COVID – 19 ตลอดจนเพื่อยกระดับและกระตุ้นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ชายแดนใต้ ผ่านการยกระดับอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่ โดยอาศัยกลไกไมซ์รูปแบบใหม่



    ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรม Halal Business Matching การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ 4 หน่วยงาน รวมทั้งกิจกรรมการเสวนาทางวิชาการจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญด้านฮาลาลทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมีการประชุมองค์กรความร่วมมือด้านฮาลาลระดับนานาชาติ ในส่วนภาคภาษาอังกฤษ ได้แก่ ประเทศบูรไน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และภาคภาษาอาหรับ ได้แก่ ประเทศคูเวต ซาอุดิอาราเบีย จอร์แดน เป็นต้น ในส่วนเสวนาภาษาไทย ได้แก่ หัวข้อเรื่อง มาตรฐานตอยยิบัน สู่การยกระดับผลิตภัณฑ์ฮาลาลชั้นพรีเมี่ยม การเตรียมความพร้อมสินค้าเกษตร ตามมาตรฐานฮาลาลสู่ตลาดตะวันออกกลาง และแนวทางการปรับตัวการท่องเที่ยวฮาลาลเชิงสุขภาพหลังวิกฤตโควิด-19 และการเปิดตัวหลักสูตรโลจิสติกส์ฮาลาล เป็นต้น
    

    นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนฮาลาลไม่น้อยกว่า 200 ร้านค้า และกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของมุสลิมในภาคใต้ การแข่งขันอนาชีด การแข่งขันชาชัก และการแข่งขันอาหารฮาลาล อีกด้วย



    ด้าน คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า งาน World HAPEX 2022 จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของชายแดนใต้ให้ดีขึ้น ผ่านการยกระดับอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่ โดยอาศัยกลไกไมซ์รูปแบบใหม่ และนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาจำหน่ายสินค้าและบริการฮาลาลภายหลังสถานการณ์โควิด - 19 คลี่คลาย ยังถือเป็นการจุดประกายให้ผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการต่อยอด และเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ส่งผลให้เกิดการพัฒนามาตรฐานการยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดงานไมซ์ทางด้านฮาลาลระดับโลกต่อไปในอนาคต