ข่าวชาวสงขลานครินทร์

‘พญ.นันทกา เทพาอมรเดช’ แพทย์ตัวอย่างภาคใต้ ประจำปี 2566




    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย คณะแพทยศาสตร์ จัดประชุมวิชาการประจำปี คณะแพทยศาสตร์ ครั้งที่ 38 ภายใต้หัวข้อ “NOVEL MEDICINE FOR MANKIND การแพทย์ทันสมัย เพื่อเพื่อนมนุษย์” วันที่ 9 - 11 สิงหาคม 2566 และมอบรางวัล “แพทย์ตัวอย่างภาคใต้ ประจำปี 2566" แก่ พญ.นันทกา เทพาอมรเดช นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ แพทย์เฉพาะทาง สาขาประสาทศัลยศาสตร์ กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลยะลา โดย ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มอบโล่รางวัล รศ. นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มอบเงินรางวัล ณ ห้องทองจันทร์ หงศ์ลดารมภ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 66



    พญ.นันทกา เทพาอมรเดช สำเร็จการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต จากโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นแพทย์ใช้ทุนที่โรงพยาบาลยะลาและโรงพยาบาลห้วยยอด จากนั้นได้รับทุนจากโรงพยาบาลยะลาเข้าฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางสาขาประสาทศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งใจไว้ว่าเมื่อกลับมาปฏิบัติงานประสาทศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลยะลาครบ 3 ปีแล้วจะกลับไปเป็นอาจารย์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่ด้วยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขาดแคลนประสาทศัลยแพทย์ ประกอบกับได้เห็นความทุกข์ยากของคนในพื้นที่ จึงได้ตัดสินใจอยู่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลยะลาต่อจนถึงปัจจุบัน



    พญ.นันทกา ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่ซับซ้อน ซึ่งคนไข้ด้านศัลยประสาทมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้โรงพยาบาลยะลาสามารถดูแลคนไข้ด้านสมองได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการส่งต่อ เนื่องจากบริบทผู้ป่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความลำบากในการเดินทาง ขณะนี้โรงพยาบาลยะลาสามารถทำผ่าตัดส่องกล้องสมองและไขสันหลัง (Endoscopic spine Endoscopic brain), ผ่าตัดผู้ป่วยแบบตื่น (awake craniotomy under intraoperative neuromonitoring) ได้เอง




    การเป็นคนทำงาน และเป็นนักพัฒนาเชิงรุก ทำให้ พญ.นันทกา ได้จัดทำโครงการเยี่ยมบ้านคนไข้ เพื่อติดตามคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังจากที่ได้รับการผ่าตัดสมองแล้ว ให้ได้รับการดูแลอย่างครบวงจร นอกจากนี้ พญ.นันทกา ยังได้ทำงานด้านบริหารงานคัดกรองมะเร็งปากมดลูก พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญเกี่ยวกับการประสานงานกับหน่วยงานภายนอก ในการดูแลคนไข้ในโรงพยาบาลสนามและคนไข้ในระบบ home isolation ซึ่งมีผู้ป่วยประมาณ 1,000 รายต่อวัน



    พญ.นันทกา เทพาอมรเดช กล่าวว่า การทำงานเป็นแพทย์ยอมรับว่าบางครั้งก็หนักและเหนื่อย แต่ถ้าเทียบกับอาชีพอื่น ยังมีอีกหลายอาชีพที่หนักและเหนื่อยมากกว่า บางคนอาจเหนื่อยกาย บางคนอาจเหนื่อยใจ แต่สิ่งที่เราได้จากการเป็นหมอ คือ การได้เห็นคุณค่าในตนเอง การได้ช่วยชีวิตคนอื่น หมอชอบเวลาออกตรวจคนไข้ ชอบเวลาที่ได้เห็นคนไข้เดินกลับบ้านได้เหมือนปกติ ทั้งที่ตอนมาหาหมอครั้งแรก คนไข้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจติดตัวมาด้วย การได้เห็นคนในครอบครัวคนไข้มารอรับ สิ่งเหล่านี้ คือ “รางวัล” ที่เราหาซื้อไม่ได้