ข่าวชาวสงขลานครินทร์

ม.อ. เปิดเวทีระดมสมอง “สมัชชาสงขลานครินทร์” ขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณค่าด้วยวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์




    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดงานสมัชชามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรื่อง “การขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สู่โลกแห่งอนาคต” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวเปิดและบรรยาย เรื่อง “การขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สู่โลกแห่งอนาคต” ผศ. ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ กล่าวรายงานผลการดำเนินงานตามมติสมัชชา ครั้งที่ 1 ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี บรรยาย เรื่อง “ทิศทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ” และ รศ. ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและการเงิน บรรยาย เรื่อง “การขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณค่าด้วยวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์” ซึ่งมีผู้บริหาร และบุคลากร จาก 5 วิทยาเขตเข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมรอง (Conference Hall) ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี และออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 66




ผศ. ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ กล่าวว่า เวทีสมัชชา ครั้งที่ 1 มีการระดมความคิดเห็นใน 3 มติด้วยกัน ทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อเป็นกำลังของชาติ การสร้างและเพิ่มมูลค่าความรู้นวัตกรรมนำไปสู่การพัฒนาประเทศ และการพลิกโฉมรูปแบบทางวิชาการและความเป็นเลิศทางวิชาการ มีข้อเสนอเชิงนโยบายในแต่ละมติหลากหลาย อาทิ การพัฒนาระบบการเรียนการศึกษา การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสนับสนุน การศึกษาตลอดชีวิต การสร้างมูลค่าเพิ่มความรู้ทางวิชาการนำไปสู่การพัฒนาประเทศ การสื่อสารองค์ความรู้ การสร้างระบบนิเวศวิจัย การพัฒนาระบบการลงทุนด้านนวัตกรรม การปรับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย ทำให้มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณค่า นำไปสู่การขับเคลื่อนและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลก



ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า เวทีสมัชชามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เมื่อปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นนิมิตหมายสำคัญในกระบวนการการสร้างความมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในประชาคมของมหาวิทยาลัย และเป็นปัจจัยสำคัญ เป็นพื้นฐานความสำเร็จ ในการขับเคลื่อนงานสำคัญๆ ของมหาวิทยาลัย โดยเวทีสมัชชามหาวิทยาลัยในครั้งนี้เป็นการกำหนดทิศทาง การบริหาร และพัฒนามหาวิทยาลัยไปอีก 4 ปี และสามารถเป็นสื่อกลางความเข้าใจร่วมของคน ม.อ. เพื่อให้ทุกส่วนงาน ทุกหน่วยงาน และประชาคมของมหาวิทยาลัยได้รับทราบทิศทาง แนวคิด และสร้างความเข้าใจร่วม ในการที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยในอนาคต ก่อให้เกิดการร่วมมือในการบูรณาการศาสตร์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกัน ชาวมหาวิทยาลัยคงต้องร่วมกันสร้าง ก่อรูปแผนงาน โครงการขนาดใหญ่ๆ ที่สำคัญ และก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วนของประเทศ ตลอดจนเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2566 – 2570 และอนาคต่อไป



ด้าน ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี กล่าวว่า การขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ในครั้งนี้เน้นเรื่องของการสร้างคุณค่าเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับแนวหน้าของโลก ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ในรอบ 4 ปีนี้ ที่ทีมผู้บริหารและบุคลากรชาวสงขลานครินทร์ จะร่วมกันขับเคลื่อนสงขลานครินทร์ไปสู่มหาวิทยาลัยที่มีคุณค่าและมีความหมาย ถึงแม้สงขลานครินทร์จะเป็นมหาวิทยาลัยภูมิภาค แต่ด้วยศักยภาพเชื่อว่าจะยกระดับสงขลานครินทร์จาก local ให้คนทั่วโลกมองเห็น สงขลานครินทร์จะปรับวิธีการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของสังคม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งภายในและภายนอก มหาวิทยาลัยเป็นสมองของประเทศ เป็นหน่วยงานกลางที่ทุกคนให้ความเชื่อถือและไว้วางใจ ไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีความพร้อมที่จะเข้าไปทํางานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งการแก้ปัญหา การมองสู่อนาคตให้เกิดการพัฒนาอย่างแท้จริง ฉะนั้นการขับเคลื่อนผ่านเวทีสมัชชาในครั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ 5 ประเด็น ได้แก่ เรื่องเกษตรอาหาร เรื่องสุขภาพ เรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องของสังคมพหุวัฒนธรรม และเรื่องของการสร้างนวัตกรรมและการท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้เป็นจุดแข็งของประเทศไทย และเป็นความพร้อมของสงขลานครินทร์ ดังนั้น หัวใจของการทำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์อยู่ที่การรวมพลังทั้งภายนอกและภายในมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างกําลังพลระดับสูงให้กับประเทศ

“การกําหนดวิสัยทัศน์ใหม่ให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณค่าเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับแนวหน้าของโลก ถือว่าเป็นศักยภาพที่แท้จริงของสงขลานครินทร์ที่สามารถดำเนินการเรื่องที่สําคัญ และส่งผลให้เกิดการพัฒนา ทั้งต่อประชาชนในภาคใต้และประเทศ ตลอดจนสนับสนุนสังคมโลกได้อย่างแท้จริง ฉะนั้นขอให้ชาวสงขลานครินทร์ยกระดับในการทํางาน เพื่อก้าวข้ามข้อจํากัดต่างๆ เชื่อมโยงระบบ PSU System ซึ่งเป็นเครือข่ายของ 5 วิทยาเขตที่ทํางานกันอย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าสงขลานครินทร์จะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณค่าที่มีความหมายสมกับความเป็นมหาวิทยาลัย สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างยั่งยืนต่อไปและมีประโยชน์อย่างแท้จริง” อธิการบดี กล่าว



ขณะที่ รศ. ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและการเงิน กล่าวว่า การขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณค่าด้วยวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ นั้นมีการตั้งเป้าว่าในปี 2570 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะได้รับการจัดอันดับเป็น Top 500 โดยการจัดอันดับจาก QS Rankings เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัยและนวัตกรรม มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้ภาคใต้และประเทศ ซึ่งวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ประกอบด้วย 5 SO ด้วยกัน ได้แก่ SO1 สร้างความมั่นคงด้านอาหารและเกษตรกรรมยั่งยืนเพื่อความอยู่ดีมีสุข SO2 สร้างสรรค์องค์ความรู้และนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ SO3 สร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม SO4 สร้างสังคมพหุวัฒนธรรมและวิถีสุวรรณภูมิสู่ความยั่งยืน และ SO5 ยกระดับเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยวมูลค่าสูง โดยประกอบด้วย 12 Focus Area ได้แก่ เกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง การท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน ฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก การแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง ประตูการค้าการลงทุนและโลจิสติกส์ ศูนย์กลางดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ SMEs ที่เข้มแข็ง ศักยภาพสูง แข่งขันได้ พื้นที่และเมืองอัจฉริยะ ความยากจนข้ามรุ่นและความคุ้มครองทางสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ การลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ และกำลังคนที่มีสมรรถนะสูง