รายละเอียดข่าว


ม.อ. มอบรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประจำปี 2566 ยกย่องบุคคลและองค์กรที่ทำประโยชน์แก่ชุมชนในภาคใต้




    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มอบรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ เพื่อยกย่องบุคคลและองค์กรที่ทำประโยชน์แก่ชุมชนในภาคใต้ให้เป็นตัวอย่างการดำรงชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจในการทำประโยชน์เพื่อชุมชนให้อนุชนได้ยืดถือเป็นแบบอย่าง ซึ่งจะเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติยศ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2565-2566 ระหว่างวันที่ 18-21 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประจำปี 2566 ดังนี้

    - นายอนุพาสน์ สุวรรณมงคล ผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประเภทบุคคล

    นายอนุพาสน์ สุวรรณมงคล เป็นนักธุรกิจ ชาวจังหวัดปัตตานี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการกลุ่มอีซูซุหาดใหญ่ เป็นผู้อุทิศตนและให้ความสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และให้โอกาสด้านการศึกษา เป็นประธานคณะทำงานทุนการศึกษาโครงการต้นกล้าสงขลานครินทร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนที่ขาดโอกาสในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ให้สามารถศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ได้ช่วยเหลือและสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้งยังได้จัดตั้งกองทุนอนุพาสน์ สุวรรณมงคล เพื่อการศึกษาของบุตรธิดาพนักงานในกลุ่มอีซูซุหาดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2545 โดยให้พนักงานทุกสาขาทั้ง 7 จังหวัด สามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อให้บุตรธิดาได้เข้ารับศึกษาในทุกระดับชั้นโดยไม่คิดดอกเบี้ย

    นอกจากนี้ ยังได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อฟื้นฟู  บ้านขุนพิทักษ์รายา สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ให้ได้รับการยกย่อง ทรงคุณค่า และสวยงามประจำย่านชุมชนหัวตลาด อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ และให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเอกลักษณ์ของเมืองปัตตานีที่สะท้อนวิถีชีวิตของชุมชนจากอดีตซึ่งเป็นพหุสังคมที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัดจนได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ บ้านทรงคุณค่าปัตตานี ประจำปี 2563 จากจังหวัดปัตตานี และรางวัลด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ประจำปี 2564 ประเภท Award of Merit จาก UNESCO

    - นายเชาวพงศ์ ฐิติสวัสดิ์ ผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประเภทบุคคล

    นายเชาวพงศ์ ฐิติสวัสดิ์ เป็นนักธุรกิจ ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการโรงแรมสยามธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เป็นผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี อีกทั้งยังเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนภารกิจด้านต่าง ๆ ของวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

    นอกจากนี้ นายเชาวพงศ์ ฐิติสวัสดิ์ ยังดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงานโครงการการพัฒนาพื้นที่ทุ่งใสไช สู่การเป็นพื้นที่นวัตกรรมที่ยั่งยืนในรูปแบบวิทยาลัยนวัตกรรมเกษตรทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินภารกิจของวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ในการพัฒนาพื้นที่ทุ่งใสไชให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อมหาวิทยาลัยและชุมชนในพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชน จึงนับเป็นผู้ที่มีคุณูปการอย่างยิ่งแก่วงการการศึกษาของพื้นที่ภาคใต้

    - สหทัยมูลนิธิ สำนักงานภาคใต้ องค์กรที่ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประเภทองค์กร

    สหทัยมูลนิธิ สำนักงานภาคใต้ เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน โดยมีผู้อำนวยการสหทัยมูลนิธิ สำนักงานภาคใต้ เป็นผู้ดูแลบริหารงาน และดำเนินการภายใต้ สหทัยมูลนิธิ ได้รับการอนุญาตจัดตั้งเมื่อปีพุทธศักราช 2519 ณ กรุงเทพมหานคร ภายใต้ชื่อ โฮลท์สหทัยมูลนิธิ เป็นองค์กรที่ดำเนินงานเพื่อเด็กและครอบครัวโดยไม่แสวงหากำไร และในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น สหทัยมูลนิธิ เพื่อความเหมาะสม จากนั้นในปี 2541 จึงได้จัดตั้งสหทัยมูลนิธิ สำนักงานภาคใต้ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่หลักในการเสริมสร้างกำลังครอบครัวที่ประสบปัญหาให้สามารถเลี้ยงดูบุตรหลานในครอบครัวได้อย่างปกติสุข เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กถูกทอดทิ้ง ปล่อยปละละเลย ถูกล่วงละเมิด หรือได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมด้วยการจัดบริการตามหลักและกระบวนการสังคมสงเคราะห์วิชาชีพ รวมถึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรชุมชนในท้องถิ่นในการระดมทรัพยากรทางสังคมเพื่อพัฒนาศักยภาพและเสริมความเข้มแข็งให้แก่เด็ก เยาวชน ครอบครัว และชุมชน อีกทั้งการส่งเสริมให้สังคมเกิดความตระหนัก มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหา และร่วมกันพัฒนาเด็กและครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง

    ทั้งนี้ สหทัยมูลนิธิ สำนักงานภาคใต้ ได้ดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือเด็ก เยาวชน และครอบครัว ภายใต้ 3 งานหลัก ได้แก่ งานสวัสดิการครอบครัว (Family Services), งานครอบครัวอุปการะ (Foster Care) และงานส่งเสริมสวัสดิการเด็กและครอบครัวสู่ชุมชน ซึ่งในแต่ละปีได้มีผู้เข้าใช้บริการเป็นรายบุคคลและครอบครัวจากสหทัยมูลนิธิ สำนักงานภาคใต้ เป็นเด็กหมุนเวียนปีละประมาณ 1,500 คน จากจำนวน 650 ครอบครัว และจากอดีตจนถึงปัจจุบันมูลนิธิได้ดำเนินการช่วยเหลือสังคมมากว่า 25 ปี โดยในส่วนของงานด้านสวัสดิการครอบครัว มีผู้เข้าใช้บริการ รวม 3,144 ครอบครัว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาบริการและการจัดกิจกรรมกลุ่มต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาศักยภาพเด็กและครอบครัว ซึ่งการเรียนรู้ผ่านกระบวนการและกิจกรรมที่มูลนิธิจัดขึ้นได้มีส่วนช่วยให้เด็กและสมาชิกของครอบครัวสามารถแก้ไข คลี่คลายปัญหา พัฒนาตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสม โดยแต่ละปีมีทั้งเด็กและผู้ปกครองผ่านกิจกรรมกลุ่มปีละ 1,200 คน และในงานโครงการศูนย์เรียนรู้ชีวิตเพื่อเด็กและครอบครัว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช มีบุคคลทั่วไปจากทั่วประเทศมาใช้พื้นที่อีกปีละประมาณ 2,500 คน จากผลงานที่ปฏิบัติในด้านการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวมาเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้ สหทัยมูลนิธิ สำนักงานภาคใต้ สามารถเป็นต้นแบบให้แก่องค์กรและหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงเป็นแหล่งฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษา เป็นแหล่งศึกษาดูงานด้านสวัสดิการเด็กและครอบครัวของหน่วยงานต่าง ๆ อีกทั้งบุคลากรยังได้รับเชิญเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง

     

    ขอบคุณภาพกราฟฟิก : PSUConnext 
    ศุนย์กิจการนานาชาติและสื่อสารองค์กร