ข่าวชาวสงขลานครินทร์

สสส. – ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. และเครือข่าย ประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 12 ป้องกันภัยจาก “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์”




    กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และภาคีเครือข่าย จัดการประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 12 ภัยแอลกอฮอล์: ความเสมอภาค และการเปลี่ยนแปลงในสังคมปัจจุบัน ภายใต้หัวข้อ “พัฒนาการสำคัญของการขับเคลื่อนงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ปลอดภัย”โดยมี ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานเปิดงาน ณ ศูนย์จัดประชุมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 65



    ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า 12 ปี ของการประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 12 เห็นถึงความเข้มแข็งและยั่งยืนของหลักการสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขาในการขับเคลื่อนงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งหน่วยงาน วิชาการ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม และเพื่อให้การจัดการกับปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพและนำไปสู่นโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมให้การสนับสนุนการทำงานในด้านของการประสานความร่วมมือกับศูนย์วิชาการหรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการขยายวงนักวิจัย นักวิชาการสาขาอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างฐานความรู้ให้กับสังคม ผลักดันความเป็นผู้นำทางวิชาการ และการนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้เกิดประโยชน์สูงสุด



    ทั้งนี้ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมการอภิปราย ในหัวข้อ “การสร้างพื้นที่สร้างสรรค์และปลอดจากภัยแอลกอฮอล์ในสังคมไทย” โดย กล่าวว่า ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2564 พบอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยมีแนวโน้มลดลง ร้อยละ 28 จาก ร้อยละ 28.40 เมื่อปี 2560 ขณะที่ข้อมูลภาวะสังคมไทย โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบค่าใช้จ่ายบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2564 ลดลงเช่นกัน เหลือเพียง 167,775 ล้านบาท จาก 169,946 ล้านบาท เมื่อปี 2563 จึงเป็นกำลังใจที่ดีในการสานพลังกับภาคีเครือข่าย ผ่านการดำเนินงาน 4 ข้อ 1. พัฒนาฐานข้อมูลเชิงวิชาการและนักวิชาการให้เกิดข้อเสนอเชิงนโยบาย 2. ผลักดันกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้มข้น 3. พัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็ก-เยาวชน-คนทุกกลุ่ม 4. พัฒนาต้นแบบนวัตกรรมเพื่อรณรงค์สื่อสาร สร้างความตระหนักรู้ให้สังคมปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง
    
    “สสส. ขอประกาศเจตนารมณ์ว่า จะทำหน้าที่สานพลัง สร้างนวัตกรรม สื่อสารสุขภาวะ เพื่อทำให้ทุกคนมีวิถีชีวิตสังคม และสิ่งแวดล้อม ที่สนับสนุนต่อการมีสุขภาวะที่ดี ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยงที่ทำลายสุขภาวะ งานประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 12 ปีนี้ เปรียบเสมือนขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ จากทั้งนักวิชาการ ภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ที่ร่วมกันจุดประกาย กระตุ้น สาน และเสริมพลัง ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อประชาชนต่อไป” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว



    ขณะที่ ศ. ดร.พญ.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ผู้อำนวยการแผนงานศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบนักดื่มปัจจุบัน จำนวน 15.9 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 28 ของประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ส่วนนักดื่มหน้าใหม่หรือประชากรที่เพิ่งเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกในชีวิต ภายใน 3 ปีก่อนการสำรวจ มีจำนวน 1.3 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.93 โดยนักดื่มหน้าใหม่เพศหญิงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่านักดื่มเพศชายอย่างเด่นชัด ขณะที่สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 และโครงสร้างของประชากร รวมถึงการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางสื่อสังคมออนไลน์, กิจกรรมการตลาดที่เพิ่มขึ้น, การใช้ตราเสมือน และการให้ทุนอุปถัมภ์จากอุตสาหกรรมสุรา ส่งผลให้เกิดนักดื่มหน้าใหม่ และผู้ดื่มมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ

    “แม้จะเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศไทย แต่ยังจะต้องใช้แผนปฏิบัติการด้านควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติ ระยะที่ 2 ปี 2564 – 2570 เข้มข้นต่อไป และยอมรับว่า ยังพบปัญหาและอุปสรรคในการแก้ไขปัญหา ศวส. จึงส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ และตระหนักถึงการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มากขึ้นต่อไป” ศ. ดร.พญ.สาวิตรี กล่าว