ข่าวชาวสงขลานครินทร์

ม.อ. จับมือ องค์การเภสัชกรรม และเอกชน พัฒนาเทคโนโลยีไมโครอาเรย์ ยกระดับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์




มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำโดย ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี ร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การวิจัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีไมโครอาเรย์ และเทคโนโลยีการกักเก็บสารออกฤทธิ์ระดับไมโคร-นาโน โดยมี พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ดร. จุลินทิพย์ พุทธวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อี.ซี.เน็กซ์ จำกัด และ รศ. ดร.สุรพงษ์ สิริพงศ์ดี ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท พีแอนด์พี อิเลคทรอนิกส์ เทคโนโลยี จำกัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมองค์การเภสัชกรรม เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568





ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัย พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในครั้งนี้ มีการส่งเสริม สนับสนุนข้อมูลการดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีการบริหารยาผ่านผิวหนังด้วยไมโครอาเรย์ และเทคโนโลยีการกักเก็บสารสำคัญระดับไมโคร-นาโน รวมถึงสนับสนุนห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง บุคลากร สถานที่ ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการบรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป



พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีไมโครอาเรย์ และเทคโนโลยีการกักเก็บสารออกฤทธิ์ระดับไมโคร-นาโน ให้ได้ตามมาตรฐานสากล และเพื่อขยายกำลังการผลิตสู่ระดับสากล รวมถึงสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปสู่เชิงพาณิชย์ องค์การเภสัชกรรม มีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ การดำเนินการครั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมจะส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ สนับสนุนวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์สารออกฤทธิ์ ยาและสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนและผลักดันให้มีการนำผลงานหรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น ต่อยอดไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ และดำเนินการขึ้นทะเบียน จดแจ้งผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ อีกด้วย



“ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป อีกทั้งเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทางด้านการแพทย์และสุขภาพ ให้มีข้อมูลประสิทธิผล และความปลอดภัยในการใช้ยาให้แก่ประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบโจทย์การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เชิงนโยบาย และในเชิงสาธารณะต่อไป” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าว



ขอบคุณภาพและข่าวจาก องค์การเภสัชกรรม