ข่าวชาวสงขลานครินทร์

นักศึกษา ปลื้ม ม.อ. เปิดเสรีแต่งกายตามเพศสภาพ




    นักศึกษา ขอบคุณมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่เห็นความสำคัญของกลุ่ม LGBTQ ออกประกาศอนุญาตให้นักศึกษาแต่งกายตามเพศสภาพ ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมมีแผนสร้างห้องน้ำสำหรับนักศึกษาเพศที่ 3 เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความสบายใจแก่นักศึกษา

    ผศ. สุพจน์ โกวิทยา รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่นักศึกษาได้ร้องขอให้มหาวิทยาลัยพิจารณาแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อมูลบนบัตรประจำตัวนักศึกษา โดยเสนอแนะให้ยกเลิกคำนำหน้าชื่อบนบัตรประจำตัวนักศึกษาและภาพถ่ายนักศึกษา ตลอดจนสามารถแต่งเครื่องแบบนักศึกษาตามเพศสภาพซึ่งไม่ตรงกับเพศกำเนิดนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการยกเลิกคำนำหน้าชื่อบนบัตรประจำตัวนักศึกษาแล้ว



    และยังได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 วิทยาเขต เพื่อพิจารณาร่างประกาศตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 และได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.) ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยได้มีมติเห็นชอบประกาศเรื่อง แนวปฎิบัติการแต่งกายของนักศึกษาตามเพศสภาพหรือเพศภาวะ หรืออัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด พ.ศ.2564 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564

    นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีแผนในการจัดทำห้องน้ำสำหรับนักศึกษาเพศที่ 3 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และสร้างความสบายใจแก่นักศึกษาอีกด้วย

    “เพศสภาพถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปในสังคม ซึ่งกฏหมายอนุญาตให้ดำเนินการและกระทำได้ มหาวิทยาลัยในฐานะที่เป็นหน่วยงานราชการต้องเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตามกฏหมายในการให้สิทธิความเท่าเทียมกันของบุคคล การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้นักศึกษากลุ่มนี้สามารถใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้โดยไม่มีความกดดัน มีอิสระเสรีในการแสดงออกจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ นักศึกษาทุกคนมีศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์เท่ากัน อีกทั้งนักศึกษากลุ่มนี้ยังเป็นนักศึกษาที่มีความประพฤติเรียบร้อย มีผลการเรียนดี และสามารถทำประโยชน์ให้สังคมได้” ผศ. สุพจน์ กล่าว



    ฮัมดัม เตาะสาตู นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ กล่าวว่า ม.อ. ไม่ได้มีเพียงแค่นักศึกษาเพศชายหรือเพศหญิงเท่านั้น การที่มหาวิทยาลัยออกประกาศอนุญาตให้นักศึกษาแต่งกายตามเพศสภาพได้ แสดงให้เห็นถึงสิทธิมนุษยชน เสรีภาพ และความเท่าเทียมกันของมนุษย์ บ่งบอกถึงสังคมที่เปิดกว้างในบริบทของความเป็นสังคมที่มีหลากหลาย และยอมรับความเท่าเทียมกันของมนุษย์



    ด้าน กัญญาพัชร สาระอาภรณ์ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ กล่าวว่า ขอบคุณมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาส เห็นถึงความสำคัญและความต้องการของกลุ่ม LGBTQ เพราะทำให้เห็นว่าสังคมเปิดกว้างและเปิดโอกาสมากขึ้นในการให้สิทธิและเสรีภาพในทุกรูปแบบ



    ขณะที่ ณัฐพล กาญจนเพ็ชร นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ที่มหาวิทยาลัยอนุญาตให้แต่งกายตามเพศสภาพได้ แสดงให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับ LGBTQ ไม่น้อยไปกว่าเพศหญิงหรือเพศชาย มองว่าเป็นความก้าวหน้าของการพัฒนาเรื่องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพ คนทุกคนไม่ว่าจะเพศไหน ก็มีสิทธิที่จะแต่งตัวตามเพศสภาพของเขาได้อย่างเต็มที่



    บัณฑิต ปั้นทอง นักศึกษาคณะการบริการและการท่องเที่ยว กล่าวว่า การที่มหาวิทยาลัยอนุญาตให้แต่งกายตามเพศสภาพได้ แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญนักศึกษากลุ่ม LGBTQ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะนำพากลุ่มเพศทางเลือกไปสู่ความเท่าเทียมอย่างแท้จริง ลดความเหลื่อมล้ำในการเลือกปฏิบัติทางสังคม ให้เกียรติและเคารพในสิทธิเสรีภาพทางสรีระร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่มนุษย์ทุกคนบนโลกควรได้รับ เพศกำเนิดที่เราเลือกไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะสร้างสีสัน คุณค่าของชีวิต และร่างกายเราเองได้



    ปิดท้ายที่ ชัยวัฒน์ ปรีชา นักศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการจัดการ สาขาการบัญชี กล่าวว่า เห็นด้วยที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญ ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ เนื่องจากปัจจุบันมีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น การแต่งกายไม่ได้บ่งบอกถึงจิตใต้สำนึกของคน เป็นเพียงปัจจัยภายนอกและไม่ได้ส่งผลที่ทำให้สติปัญญาของเราเปลี่ยนแปลงไป เพียงแค่ให้แต่งกายถูกกาลเทศะและเหมาะสมกับสถานที่นั้นๆ ถือเป็นการให้เกียรติกัน